เกร็ดความรู้ใกล้ตัวเรื่องการเงิน


 

การค้ำประกัน คือ การที่เรานั้นยินยอมรับรองให้ผู้ที่ต้องการผ่อนจ่ายทรัพย์ต่างๆนั้นมีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากยิ่งขึ้นหรือหากมองอีกมุมหนึ่งก็คือการยื่นกู้ร่วมกันซึ่งผู้ค้ำประกันจะต้องรับผิดชอบในส่วนของค่าทรัพย์สินที่ผ่อนจ่ายอยู่หากเจ้าของทรัพย์ไม่จ่ายหรือหนีหายไปรวมทั้งการติดตามทวงถามเกี่ยวกับหนี้สินที่ต้องผ่อนจ่ายหากไม่สามารถติดตามเจ้าของทรัพย์ได้ทางบริษัทจะติดตามมาทางคนค้ำเพื่อให้คนค้ำเป็นผู้รับผิดชอบในหนี้สินส่วนที่เหลือ

อ่านเพิ่ม

ที่มา : https://moneyhub.in.th

ความแตกต่างระหว่าง ผู้กู้ร่วม กับ ผู้ค้ำประกัน

ผู้กู้ร่วมหมายถึงอะไร?

การกู้ร่วม คือ การที่มีผู้กู้เพิ่มเข้ามากู้ขอสินเชื่อกับคุณ โดยในกรณีนี้ ก็จะถือว่า ผู้กู้ร่วมและคุณเป็นคนๆ เดียวกัน พร้อมทั้งเป็นลูกหนี้ร่วมด้วย ซึ่งจะทำมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะได้รับการอนุมัติจากสถาบันการเงิน เนื่องจากสถาบันการเงินจะนำข้อมูลทางการเงินไม่ว่าจะเป็นรายได้ และภาระหนี้สินของผู้กู้ร่วมมาช่วยพิจารณาด้วยนั่นเอง

ผู้ค้ำประกันหมายถึงอะไร?

ผู้ค้ำประกัน คือ บุคคลที่มาค้ำประกันสินเชื่อให้กับลูกหนี้ โดยที่จะไม่ได้มีสถานะเป็นลูกหนี้ แต่จะมีสถานะเป็นผู้ยืนยันว่าผู้กู้จะไม่เบี้ยวหนี้ ซึ่งหากผู้กู้มีการเบี้ยวหนี้สิน ไม่ชำระหนี้จนเกินกำหนด ทางสถาบันการเงินมีสิทธิที่จะเรียกเก็บหนี้สินจากผู้ค้ำประกันแทน เพราะการค้ำประกันนั้นถือว่าเป็นการสัญญาว่าจะชำระหนี้คืนแทน หากลูกหนี้ผิดสัญญาไม่ชำระหนี้คืนตามเวลาที่กำหนดครับ

ความแตกต่างของผู้ค้ำประกัน กับ ผู้กู้ร่วม

ผู้ค้ำประกัน

ผู้กู้ร่วม

  • — จะเป็นใครก็ได้สามารถมาเป็นคนค้ำประกันได้หมด
  • — สถาบันการเงินจะไม่นำคุณสมบัติทางการเงินมาร่วมพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
  • — ไม่มีสิทธิในทรัพย์สินของผู้กู้
  • — ไม่สามารถนำดอกเบี้ยของผู้กู้ไปลดหย่อนภาษีได้เนื่องจากไม่ได้มีส่วนร่วมในการผ่อนชำระหนี้
  • — จะต้องเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกันเท่านั้น เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หรือคนที่มีนามสกุลเดียวกัน
  • — สถาบันการเงินจะนำข้อมูลทางการเงินมาร่วมพิจารณาในการอนุมัติสินเชื่อ
  • — มีสิทธิในทรัพย์สินที่ผู้กู้ได้ทำการขอสินเชื่อไว้หากมีส่วนร่วมในการร่วมผ่อนชำระหนี้สินด้วย
  • — สามารถนำดอกเบี้ยจ่ายไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้

ที่มา : https://www.moneyguru.co.th/

สำหรับใครที่กำลังต้องการขอสินเชื่อเพื่อนำไปซื้อบ้านหรือขอสินเชื่อเพื่อนำไปใช้ประกอบธุรกิจคงกำลังคิดหนักกันอยู่แน่ๆว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรเดินสเตทเม้นแบบไหนถึงจะน่าเชื่อถือทำทุกอย่างสารพัดวิธีเพื่อที่ตนเองจะขอสินเชื่อผ่านจนหลงลืมที่จะดูเงื่อนไขต่างๆที่แต่ละธนาคารได้ระบุไว้เผื่อใครที่กำลังจะขอสินเชื่ออาจจะยังไม่ทราบว่าการเช็คเครดิตบูโรบ่อยๆเสี่ยงขอสินเชื่อไม่ผ่านเนื่องจากแต่ละธนาคารจะมีเกณฑ์หรือเงื่อนไขในการให้สินเชื่อแตกต่างกันซึ่งในกรณีที่คุณมีประวัติการเดินบัญชีที่หมิ่นเหม่เมื่อเทียบกับรายได้ การที่คุณเช็คบูโรบ่อยๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ผ่านการขอสินเชื่อเนื่องจากธนาคารคิดว่าคุณอาจจะขอสินเชื่อจากที่อื่นไม่ผ่านจึงต้องมาขอสินเชื่อกับที่นี่ซึ่งสาเหตุที่ไม่ผ่านอาจจะเป็นเพราะคุณสมบัติอะไรบางอย่างก็เป็นได้

อ่านเพิ่ม

https://moneyhub.in.th/article/loan-application-is-rejected/

วิธีเซ็นชื่อรับรองสำเนาบัตรประชาชน แบบถูกต้อง และปลอดภัย

  1. ทุกครั้งหลังจากเซ็นชื่อและเขียนรับรองสำเนาถูกต้องแล้วต้องเขียนรายละเอียดกำกับไว้ด้วยว่าเอกสารฉบับนั้นใช้สำหรับทำอะไร เช่น "ใช้สำหรับการสมัครสินเชื่อกับบริษัท …เท่านั้น" เป็นต้น
  2. กำกับ วัน เดือน ปี โดยเขียนลงบนสำเนาที่ใช้ด้วยซึ่งจะช่วยกำหนดอายุการใช้สำเนาได้
  3. ขีดเส้นคู่พาดบนสำเนาบัตรประชาชน
  4. ต้องเขียนข้อความทั้งหมดทับลงบนสำเนาส่วนที่เป็นบัตรประชาชน
  5. เอกสารต้องใช้ปากกาหมึกสีดำเท่านั้นถึงจะปลอดภัยที่สุดเพราะเครื่องถ่ายเอกสารบางเครื่องสามารถถ่ายเอกสารโดยดึงหมึกสีน้ำเงินออก

ที่มา: ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.)

บริษัท ยันม่าร์ แคบปิตอล (ไทยแลนด์) จำกัด

เลขที่ 1858/113, 115, 116 อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ ชั้น 26
ถนนเทพรัตน แขวงบางนาใต้ เขตบางนา
กรุงเทพมหานคร 10260
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 0115552007416
สำนักงานใหญ่